ปัจจุบันคนส่วนใหญ่กลับมาเลี้ยงน้องๆสุนัขเพิ่มมากขึ้น บางครั้งน้องสุนัขของเราก็ซุกซนทำให้สกปรกเลอะเทอะอยู่หลายครั้ง ทำให้ต้องอาบน้ำสัตว์เลี้ยงของเราบ่อยๆ เพราจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกผิวหนัง และขนที่หมดสภาพรวมถึง จุลินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ที่ผิวหนังออกไป รู้หรือไม่ว่าผิวของคนกับผิวสุนัขไม่เหมือนกัน วันนี้โรงเรียนสอนตัดขนสุนัข โกลมี่ เพ็ท จึงมีการเลือกแชมพูอาบน้ำให้กับสุนัข มาแนะนำทุกท่านครับ
ที่มารูปภาพ : Autri Taheri (Unsplash)
ไม่ควรใช้แชมพูของมนุษย์กับสุนัข ควรจะเลือกใช้แชมพูสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิวหนังสุนัข
แชมพูสำหรับผิวหนังที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นแชมพูที่สัตวแพทย์จะจ่ายให้กับสุนัขที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังมีลักษณะเป็นตุ่มหนอง เป็นแชมพูที่ประกอบด้วยตัวยาที่มีฤทธ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้แก่ benzoyl, peroxide,chlorhexidine, ethyl lactate
แชมพูสำหรับผิวหนังที่มีการติดเชื้อยีสต์ มักจะมีตัวยาจำพวก Ketoconazole หรือ chlorhexidine
แชมพูสำหรับผิวหนังที่มีการติดเชื้อรา ได้แก่ แชมพูที่มีตัวยา Ketoconazole
แชมพูสำหรับขจัดรังแค ได้แก่ แชมพูที่ประกอบด้วย ซัลเฟอร์ salicylic acid, น้ำมันดิน (Tar) และ selenium sulfide
แชมพูลดคัน ได้แก่ แชมพูที่มีส่วนผสมของ oatmeal เป็นต้น
แชมพูที่ก่อให้เกิดความแพ้น้อย (hypoallergenic shampoo) เป็นแชมพูอ่อนปราศจากสี และกลิ่น เหมาะสำหรับโรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้แชมพูการใช้แชมพูยาอย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลในการรักษานั้นจำเป็นจะต้องมีวิธีใช้ที่ถูกต้องสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระยะเวลาที่ตัวยาในแชมพูสัมผัสกับผิวหนัง ถ้าระยะเวลาดังกล่าวสั้นเกินไป ตัวยายังทำงานไม่เต็มที่ก็ถูกล้างออกไป
การใช้แชมพูยาดังกล่าวถือว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ดังนั้นจึงควรทิ้งแชมพูยาไว้บนตัวสุนัข 5-15 นาทีก่อนที่จะมีการล้างแชมพูออก ในการอาบแต่ละครั้งนอกจากนี้แล้วความถี่ของการใช้แชมพูยาก็มีผลต่อการหายของโรคเช่นเดียวกัน ในกรณีที่มีความรุนแรงของโรคมาก สัตวแพทย์จะแนะนำให้มีการใช้แชมพูถี่ขึ้น เช่น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ความถี่จะน้อยลงเหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นต้น
การใช้แชมพูยาโดยที่ไม่มีความเข้าใจใประสิทธิภาพของตัวยาในแชมพูอย่างถ่องแท้บางครั้งจะนำมาซึ่งความเสียหายของผิวหนังสุนัขมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น แชมพูสำหรับขจัดรังแค รังแคบางชนิดเกิดเนื่องจากผิวหนังของสุนัขแห้งมากๆ ถ้าเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคชนิดอื่นที่ไม่ถูกต้องกับชนิดของรังแค จะมีผลทำให้ผิวหนังสุนัขแห้งมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้ยิ่งมีรังแคมากขึ้น และสุนัขจะแสดงอาการคันร่วมด้วย ดังนั้นเพื่อให้การใช้แชมพูยามีประสิทธิภาพสูงสุดโดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสุนัข ควรจะได้พาสุนัขไปให้สัตวแพทย์โรคผิวหนังตรวจวินิจฉัย และรับคำแนะนำในเรื่องชนิดของแชมพูที่จะใช้ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการใช้แชมพูยาก็จะทำให้ผิวหนังของสุนัขดีขึ้น และกลับคืนสู่สภาพปกติได้ในเวลาไม่นาน
หากใช้แชมพูโดยไม่เลือก หรือ ไม่ตรงกับประเภทที่ใช้อาจจะส่งผลต่อผิวหนังของน้องสุนัขตามมาในอนาคตได้ ดังนั้นก่อนที่จะอาบน้ำให้น้องๆ อย่าลืมเลือกแชมพูให้ตรงกับประเภทด้วยนะครับ
Comments